โครงการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและลดภาวะโลกร้อนจากการทำนาเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน หรือ “ไทย ไรซ์ นามา” (Thai Rice NAMA) พร้อมสนับสนุนให้เกษตรกรปรับระดับพื้นที่นาด้วยระบบเลเซอร์ โดยมีเป้าหมายโครงการกว่า 280,000 ไร่ เพิ่มโอกาสในการพัฒนาศักยภาพด้านการผลิตข้าวของไทย
พระนครศรีอยุธยา, 17 มีนาคม 2564 – กรมการข้าว ร่วมกับองค์กรความร่วมมือระหว่างประเทศของเยอรมัน (GIZ) ประจำเทศไทย ภายใต้โครงการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและลดภาวะโลกร้อนจากการทำนาเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน หรือ “ไทย ไรซ์ นามา” (Thai Rice NAMA) จัดงานสาธิตการปรับระดับพื้นที่นาด้วยระบบเลเซอร์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและลดโลกร้อนจากการทำนาเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน ณ ตำบลสามบัณฑิต อำเภออุทัย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยมี นายอาชว์ชัยชาญ เลี้ยงประยูร อธิบดีกรมการข้าว นายภานุ แย้มศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เจ้าหน้าที่จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการ และเกษตรกรในจังหวัดพื้นที่เข้าร่วมงานกว่า 200 ราย
การจัดงานสาธิตในครั้งนี้มุ่งหวังให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องและเกษตรกรได้เข้าใจถึงการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตข้าวที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมด้วยเทคโนโลยี 4 ป. ที่เป็นหลักสำคัญของการทำนา ของโครงการ ไทย ไรซ์ นามา (Thai Rice NAMA) คือ ป.ที่หนึ่ง ปรับระดับพื้นที่นาด้วยระบบเลเซอร์ ป.ที่สอง เปียกสลับแห้ง ป.ที่สาม ปุ๋ยตามค่าวิเคราะห์ดิน และ ป.สุดท้าย แปรสภาพฟางและตอซังข้าว โดยเน้นส่งเสริมการปรับระดับพื้นที่นาด้วยระบบเลเซอร์
นายอาชว์ชัยชาญ เลี้ยงประยูร อธิบดีกรมการข้าว กล่าวว่า การปรับระดับพื้นที่นาด้วยระบบเลเซอร์ เป็นเทคโนโลยีหลักที่จะสนับสนุนให้เกิดประสิทธิภาพมากขึ้นในการปฏิบัติเทคโนโลยีอื่น เช่น ลดการใช้น้ำและค่าน้ำมันเชื้อเพลิงที่ใช้สูบน้ำด้วยการจัดการน้ำแบบเปียกสลับแห้ง ลดอัตราการสูญเสียปุ๋ยและข้าวได้รับปุ๋ยสม่ำเสมอทั่วกันทั้งแปลงนาจากการใช้ปุ๋ยตามค่าวิเคราะห์ดิน
“นาแปลงใหญ่กับบทบาทผู้นำการเปลี่ยนแปลง กรมการข้าวมุ่งดำเนินงานส่งเสริม ถ่ายทอดความรู้ผ่านนาแปลงใหญ่ในพื้นที่ 6 จังหวัด คือ พระนครศรีอยุธยา อ่างทอง ชัยนาท สิงห์บุรี สุพรรณบุรี และปทุมธานี เพื่อให้เกิดการพัฒนาที่ส่งต่อสู่เกษตรกรรายย่อยอย่างครอบคลุมและทั่วถึงโดยการจัดงานสาธิตในครั้งนี้ กรมการข้าวหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะสามารถทำให้เกิดการยอมรับของชาวนาในวงกว้าง ทั้งในจังหวัดพื้นที่เป้าหมายและพื้นที่อื่น ๆ ต่อไป”
นายภานุ แย้มศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า การพัฒนาการผลิตภาคการเกษตรโดยใช้นวัตกรรมก็เป็นหนึ่งใน 3 ประเด็นพัฒนาของจังหวัด ซึ่งมีวัตถุประสงค์ที่สำคัญคือ การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและสร้างมูลค่าเพิ่มในภาคเกษตร โดยใช้นวัตกรรมและภูมิปัญญาที่สร้างสรรค์ เพื่อความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น เสริมสร้างอาชีพและความการพัฒนาอย่างยั่งยืนภายในท้องถิ่น
โอเล่ เฮนริกเซ่น ผู้อำนวยการโครงการ ไทย ไรซ์ นามา (Thai Rice NAMA) กล่าวว่า เกษตรกรไทยควรได้เข้าถึงเทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็วในทุกวันนี้ และการสนับสนุนจากภาครัฐเป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถให้แก่เกษตรกรเพื่อการพัฒนาภาคผลิตข้าวอย่างยั่งยืน
โครงการ ไทย ไรซ์ นามา (Thai Rice NAMA) ได้พัฒนาแผนการดำเนินงานสำหรับเทคโนโลยีลดก๊าซเรือนกระจก ผ่านการจัดตั้งคณะกรรมการที่ปรึกษาโครงการฯ คณะกรรมการขับเคลื่อนโครงการฯ คณะทำงานของโครงการฯ และคณะอนุกรรมการโครงการฯ ระดับจังหวัดในพื้นที่เป้าหมาย 6 จังหวัด ได้แก่ พระนครศรีอยุธยา อ่างทอง ชัยนาท สิงห์บุรี สุพรรณบุรี และปทุมธานี โดยจัดกิจกรรมพัฒนาและเสริมสร้างการทำนาแบบยั่งยืนและลดโลกร้อน พัฒนายุทธศาสตร์ตลาดข้าวยั่งยืน และจัดตั้งระบบเงินทุนหมุนเวียนเพื่อสนับสนุนการเข้าถึงเทคโนโลยีแก่เกษตรกร
นายสินสมุทร คงประโยชน์ ชาวนาตำบลสามบัณฑิตและเกษตรกรดีเด่นแห่งชาติประจำปี 2531 ผู้ตัดสินใจทำการปรับระดับพื้นที่นาด้วยระบบเลเซอร์ กล่าวในฐานะตัวแทนเกษตรกรถึงความตื่นตัวของเกษตรกรผู้ปลูกข้าวในพื้นที่โครงการต่อเทคโนโลยีการผลิตข้าวยั่งยืนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
“การปรับระดับพื้นที่นาด้วยระบบเลเซอร์ช่วยประหยัดเวลาในการสูบน้ำเข้าแปลงนาได้มาก ไม่ต้องคอยเฝ้าทั้งวันทั้งคืน และยังช่วยให้จัดการแปลงนาได้สะดวกขึ้น ทำนาได้ปลอดภัยมากขึ้นด้วย เพราะพื้นนาเรียบเสมอกัน ไม่เป็นหลุมเป็นบ่อ และการทำปฏิบัติตามเทคโนโลยีเหล่านี้ ทำให้รู้สึกว่าได้เป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมจากการทำงานของเราด้วย”