อุบลราชธานี วันที่ 15 ตุลาคม 2563 – องค์กรความร่วมมือระหว่างประเทศของเยอรมัน (GIZ) ประจำประเทศไทย ภายใต้โครงการตลาดนำการผลิตเพื่อเกษตรกรรายย่อย (ประเทศไทย) (Market-oriented Small Holder Value Chain: MSVC TH) หรือ เบรีย 2 (BRIA II) ร่วมกับ กรมการข้าว บริษัทโอแลม (ประเทศไทย) จำกัด และคร็อปไลฟ์ (CropLife) จัดงาน “วันถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตข้าวที่ยั่งยืน” และพิธีลงนาม MOU การรับซื้อข้าวจากเกษตรกรระหว่างเกษตรกรผู้ผลิตข้าวที่ยั่งยืน โรงสี และบริษัท โอแลม (ประเทศไทย) จำกัด ณ แปลงสาธิตการผลิตข้าวที่ยั่งยืน บ้านดอนหมู ตำบลขามเปี้ย อำเภอตระการพืชผล จังหวัดอุบลราชธานี โดยมีผู้แทนจากกรมการข้าว GIZ ผู้ประกอบการโรงสี ผู้นำเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการ และเกษตรกรในจังหวัดใกล้เคียงเข้าร่วมงานกว่า 300 ราย
การจัดงานครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มทักษะความสามารถของเกษตรกรไทยในการผลิตข้าวตามมาตรฐานข้าวยั่งยืนผ่านเทคนิคในการทำนารูปแบบใหม่ที่สามารถลดต้นทุนและช่วยลดโลกร้อน ได้แก่ การวางแผนการเพาะปลูก การจัดการแปลงนาร่วมกัน การใช้เครื่องหยอดเมล็ดพันธุ์ข้าว การควบคุมกำจัดวัชพืช การผสมปุ๋ยใช้เองตามผลตรวจดิน การจัดการฟางข้าวและตอซัง และการกำจัดศัตรูพืชด้วยวิธีผสมผสาน เทคนิคเหล่านี้จะช่วยบำรุงดินและฟื้นฟูระบบนิเวศจากการลดการใช้สารเคมี ส่งเสริมการใช้สารเคมีอย่างปลอดภัยและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ทำให้เกิดการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่าและเหมาะสม สร้างสังคมที่น่าอยู่ให้กับชุมชนได้

“ทางโครงการฯ ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญในการเชื่อมโยงตลาดให้กับเกษตรกรและสนับสนุนนโยบายตลาดนำการผลิต จึงได้ดำเนินการขยายผลการฝึกอบรมทักษะและเทคนิคการทำนารูปแบบใหม่ที่สามารถลดต้นทุน ช่วยลดโลกร้อน และเพิ่มผลผลิตข้าวที่ยั่งยืนให้กับเกษตรกร และวันนี้เราได้จัดงานวันถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตข้าวยั่งยืนและพิธีลงนาม MOU ระหว่างเกษตรกรผู้ผลิต ข้าวยั่งยืนกับ บริษัท โอแลม (ประเทศไทย) จำกัด เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับเกษตรกรและเชื่อมโยงตลาดข้าวหอมมะลิที่ผลิตตามมาตรฐานข้าวยั่งยืนอย่างเป็นระบบมากขึ้น” ดร.อรรถวิชช์กล่าว
สำหรับปี 2563 โครงการ MSVC TH ได้ดำเนินการขยายผลการฝึกอบรมการผลิตข้าวที่ยั่งยืนให้กับเกษตรกรไปแล้วกว่า 10,000 ราย จากกลุ่มเกษตรกร 100 กลุ่มในจังหวัดอุบลราชธานีและจังหวัดสุรินทร์ โดยมีเป้าหมายเพื่อเชื่อมโยงตลาดข้าวหอมมะลิที่ผลิตตามมาตรฐานข้าวยั่งยืนจำนวนประมาณ 60,000 ตันข้าวเปลือก
ในปี พ.ศ.2562 ผู้ตรวจประเมินตามมาตรฐานการผลิตข้าวยั่งยืนจากต่างประเทศได้เข้าทำการประเมินการปฏิบัติตามมาตรฐานสำหรับการปลูกข้าวอย่างยั่งยืน (Sustainable Rice Platform: SRP) ในกลุ่มเกษตรกรในจังหวัดอุบลราชธานี ผลการประเมินพบว่าเกษตรกรในพื้นที่มีมาตรฐานการปลูกข้าวอยู่ในระดับที่ยั่งยืนโดยได้รับคะแนนเฉลี่ยสูงถึงร้อยละ 93.87 ตามดัชนีชี้วัดสมรรถนะ SRP ซึ่งก่อตั้งขึ้นในปี 2554 โดยจากโครงการสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติ สถาบันวิจัยข้าวระหว่างประเทศร่วมกับเครือข่ายสมาชิกจากภาคเอกชน ประชาสังคม ตลอดจนชุมชนวิจัยและพัฒนากว่า 100 องค์กรเพื่อขับเคลื่อนตลาดการค้าข้าวระดับโลก และส่งเสริมแนวทางการจัดซื้อจัดหาอย่างยั่งยืนให้เป็นที่ยอมรับอย่างกว้างขวาง นำไปสู่การยกระดับคุณภาพชีวิตเกษตรกรและสามารถลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมที่เกิดจากการผลิตข้าวให้น้อยที่สุด
“ข้าวหอมมะลิไทยนั้นมีชื่อเสียงในตลาดโลกอยู่แล้วเรื่องของคุณภาพ และความหอมอันเป็นเอกลักษณ์ การที่โครงการ MSVC TH เข้ามาช่วยสนับสนุนให้เกษตรกรให้มีการปรับเปลี่ยนมาสู่การทำนาอย่างยั่งยืน และได้รับการรับรองตามมาตรฐานข้าวยั่งยืน (SRP) จึงเป็นการยกระดับข้าวไทยให้เป็นที่ยอมรับในระดับสากลที่ครอบคลุมในทุกมิติ ควบคู่ไปกับการพัฒนาคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของเกษตรกรและการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม เพราะการผลิต การตลาด และการบริโภคอย่างยั่งยืนจำเป็นต้องเดินควบคู่กันไป”

“เกษตรกรไทยจะสามารถสร้างรายได้จากการทำนาได้อย่างยั่งยืนได้ก็ต่อเมื่อรู้จักให้ความสำคัญและดูแลเอาใจใส่ในวิธีการการผลิตข้าวตามมาตรฐานข้าวยั่งยืนอย่างจริงจัง เพื่อสร้างโอกาสให้กับข้าวยั่งยืนไทยในตลาดข้าวระดับโลกและเป็นแนวทางการปฏิบัติที่ยั่งยันให้เป็นตัวอย่างกับเกษตรกรรุ่นใหม่ต่อไป”