เขียนโดย: นาตาเชีย อังศกุลชัย ที่ปรึกษา โครงการอำนวยความสะดวกด้านการค้าสินค้าเกษตรในภูมิภาคอาเซียน
ประเทศกัมพูชา ไทย และเวียดนาม เตรียมจัดทำแผนแนวทางพัฒนาศักยภาพด้านสุขอนามัยและสุขอนามัยพืชเพื่อส่งเสริมการขนส่งผักและผลไม้ให้รวดเร็วมากยิ่งขึ้นระหว่างสามประเทศและประเทศสมาชิกอาเซียนที่เหลือในอนาคต
โดยแผนดังกล่าวต่อยอดจากความสำเร็จของโครงการอำนวยความสะดวกด้านการค้าสินค้าเกษตรในภูมิภาคอาเซียน (Facilitating Trade for Agricultural Goods in ASEAN: FTAG) ซึ่งได้สิ้นสุดลงไปเมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา
“ผมหวังว่าโครงการจะเป็นโมเดลที่ดีให้กับหลายประเทศในอาเซียน และหวังว่าสิ่งที่ได้จากโครงการจะสามารถนำไปต่อยอดสำหรับโครงการอื่น ๆ ได้เช่นกัน นั้นคือสิ่งที่ผมอยากเห็น” นายวิชา ธิติประเสริฐ ที่ปรึกษาสำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหาร (มกอช.) และผู้แทนฝ่ายไทยในคณะกรรมการขับเคลื่อนโครงการ FTAG กล่าว
การประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อสรุปผลการดำเนินโครงการ FTAG จัดขึ้นระหว่างวันที่ 26-27 พฤศจิกายน 2562 ณ เมืองเสียมราฐ ราชอาณาจักรกัมพูชา โดยมีผู้แทนทั้งหมด 25 คนจากหน่วยงานภาครัฐของสามประเทศ ได้แก่ กัมพูชา ไทย และเวียดนาม รวมถึงตัวแทนจาก สปป.ลาว และเจ้าหน้าที่จากองค์กรความร่วมมือระหว่างประเทศของเยอรมัน (GIZ) ประจำประเทศไทยด้วยที่ได้มาแลกเปลี่ยนผลการดำเนินงานของโครงการและแผนพัฒนาศักยภาพด้านสุขอนามัยพืช ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในขั้นตอนการนำเข้าและส่งออกสินค้าเกษตร เพื่อให้สินค้าปลอดศัตรูพืชและโรคพืชที่สำคัญที่อาจเป็นอุปสรรคต่อการค้า
โครงการและแผนพัฒนาศักยภาพด้านสุขอนามัยพืช ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในขั้นตอนการนำเข้าและส่งออกสินค้าเกษตร เพื่อให้สินค้าปลอดศัตรูพืชและโรคพืชที่สำคัญที่อาจเป็นอุปสรรคต่อการค้า
นายวิชากล่าวเพิ่มเติมว่า การจัดทำคู่มือการปฏิบัติงาน (Standard Operating Procedures: SOPs) ให้กับเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติหน้าที่ ณ ด่านตรวจพืชการตรวจสอบสินค้าเกษตรและการออกใบรับรองสุขอนามัยพืชสำหรับสินค้าส่งออกจะเป็นกิจกรรมหลักที่แต่ละประเทศตั้งใจจะนำไปพัฒนาต่อหลังจบโครงการ
คู่มือการปฏิบัติงานนี้จะใช้เป็นแนวทางให้เจ้าหน้าที่สามารถปฏิบัติงานให้เป็นไปตามขั้นตอน เพื่อให้การปฏิบัติงานโดยเจ้าหน้าที่ระดับปฏิบัติการทั่วประเทศมีความสอดคล้องและไปในทิศทางเดียวกัน ทำให้การทำงานมีประสิทธิภาพและสอดคล้องกับมาตรฐานระหว่างประเทศ
โดยที่ประชุมได้มีแนวทางอยากให้ประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้พัฒนาคู่มือการปฏิบัติงานให้กับเจ้าหน้ากักกันพืชในอนาคต ประเทศไทยและเวียดนามมีแผนนำคู่มือการปฏิบัติงานมาใช้งานจริงในปี พ.ศ. 2563 ส่วนประเทศกัมพูชาจะเริ่มพัฒนาคู่มือการปฏิบัติงานต่อหลังโครงการจบ