Category: ข่าว

GIZ จับมือ อูรมัต เดินหน้าข้อตกลงความร่วมมือการใช้ประโยชน์ฟางข้าวเพื่อเกษตรกรรายย่อยเชียงราย

องค์กรความร่วมมือระหว่างประเทศของเยอรมัน (GIZ) ร่วมกับ บริษัท อูรมัต จํากัด ซึ่งเป็นกิจการเพื่อสังคม ประกอบธุรกิจเกี่ยวกับข้าวที่ได้รับรองมาตรฐานเกษตรอินทรีย์ และผลิตภัณฑ์แปรรูปจากข้าว จับมือร่วมกันดำเนินโครงการการใช้ประโยชน์ฟางข้าวจากเกษตรกรรายย่อยในจังหวัดเชียงราย ประเทศไทย เพื่อลดปัญหาการเผาฟางข้าว การขาดทางเลือกในการจัดการฟางข้าวที่เหมาะสมนั้นทำให้ฟางข้าวและตอซังมักถูกเผาโดยเกษตรกรเพื่อเตรียมพื้นที่ แม้ว่าการเผาจะก่อให้เกิดมลพิษทางอากาศและส่งผลกระทบต่อสุขภาพก็ตาม นายไรน์โฮลด์ เอลเกส ผู้อำนวยการองค์กรความร่วมมือระหว่างประเทศของเยอรมัน (GIZ) ประจำประเทศไทย และมาเลเซีย นางพจมาน วงษ์สง่า หัวหน้าโครงการส่วนภูมิภาค GIZ และนายอารวิน นารูลา ประธานบริษัท อูรมัต จำกัด ได้ร่วมลงนามข้อตกลงความร่วมมืออย่างเป็นทางการในโครงการความร่วมมือระหว่าง บริษัท อูรมัต จำกัด และ GIZ

แบ่งปัน แลกเปลี่ยน เรียนรู้: แนวทางสร้างศักยภาพกลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกกาแฟโรบัสต้า

เรื่องและภาพ ชลทิพย์ กลิ่นศรีสุข และวีรินทร์ภัทร์ เจนวัฒนากูล การรวมกลุ่มของเกษตรกรนับเป็นหนึ่งในวิธีการสร้างความเข้มแข็งและเสริมสร้างความยั่งยืนด้านการเกษตรของทั้งตัวเกษตรกรและชุมชน  กลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกกาแฟชุมชนห้วยนายร้อย  อำเภอละอุ่น จังหวัดระนอง คือหนึ่งในตัวอย่างสำคัญของโครงการพัฒนาระบบการผลิตกาแฟของผู้ประกอบการรายย่อย ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรือคอฟฟีพลัส แม้ว่าจะเป็นการรวมกลุ่มแบบไม่เป็นทางการแต่สมาชิกทั้งหมดล้วนมีความมุ่งมั่นและตั้งใจ  พัฒนาศักยภาพและความเข้มแข็งของตนเองและกลุ่มในการจัดการปลูกกาแฟโรบัสต้า ด้วยเหตุนี้ โครงการคอฟฟีพลัสจึงได้เริ่มจัดอบรมหลักสูตร “โรงเรียนธุรกิจสำหรับเกษตรกร (Farmer Business School)” เมื่อปี พ.ศ. 2562 เพื่อให้เกษตรกรผู้ปลูกกาแฟโรบัสต้ารู้จักการวางแผนการเพาะปลูก มีการจดบันทึกรายจ่าย-รายรับ เพื่อให้ทราบต้นทุน กำไร เรียนรู้การกระจายความเสี่ยงโดยการปลูกพืชที่หลากหลาย  พร้อมเทคนิคเพิ่มผลผลิตทางการเกษตรและลดต้นทุนการผลิต เกษตรกรสมาชิกกลุ่มผู้ปลูกกาแฟชุมชนห้วยนายร้อยจำนวน 17 คน ศึกษาดูงานที่ศูนย์จัดการดินปุ๋ยชุมชนหมู่ 3 ตำบล

ความร่วมมือและนวัตกรรมสู่การเกษตรทยั่งยืนในอาเซียน

เขียนโดย นาตาเชีย อังศกุลชัย และไอดีลา ฟรีตา โครงการ ASEAN AgriTrade รูปภายโดย: GIZ/Proramatephoto ผู้เข้าร่วมงานจากประเทศกัมพูชา สปป. ลาว เมียนมา เวียดนาม และ GIZ ณ งานแลกเปลี่ยนเรียนรู้และส่งเสริมเครือข่ายของ Agrinnovation Fund in ASEAN วันที่ 13 – 14 ธันวาคม 2565 13 – 14 ธันวาคม 2565 ณ

ไทยประกาศความสำเร็จโครงการข้าวลดโลกร้อน เพิ่มศักยภาพภาคเกษตร ลดผลกระทบการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

Story and Photos: Thai-German Climate Programme – Agriculture โครงการความร่วมมือไทย-เยอรมันด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ภาคเกษตรกรรม (Thai-German Climate Programme – Agriculture) ประกาศความสำเร็จสร้างการมีส่วนร่วมเพื่อส่งเสริมวิถีการปลูกข้าวลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในประเทศไทยให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และการพัฒนาระบบการตรวจวัด รายงานและทวนสอบ (Monitoring, Reporting and Verification: MRV) สำหรับภาคส่วนข้าว นับเป็นความก้าวหน้าของภาคเกษตรไทยในการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาประยุกต์ใช้ เพื่อพัฒนาองค์ความรู้ของเกษตรกรและเจ้าหน้าที่ภาครัฐในระดับปฏิบัติการและฝ่ายวิจัยที่เกี่ยวข้อง และสามารถนำความรู้ไปสู่การปฏิบัติเพื่อลดผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศจากการปลูกข้าว ข้าวมีบทบาทสำคัญกับการพัฒนาประเทศเพราะเป็นผลผลิตส่งออกหลักของภาคเกษตรไทย และยังเป็นอาหารหลักหล่อเลี้ยงประชากรไทยจากรุ่นสู่รุ่น อย่างไรก็ตาม รายงานความก้าวหน้ารายสองปี ฉบับที่ 2 (The 2nd

5 มุมมองเกษตรกรหญิงสะท้อนความสำเร็จ ในการผลิตปาล์มน้ำมันอย่างยั่งยืน

เรื่อง: โครงการการผลิตปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์มอย่างยั่งยืนและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมในประเทศไทย ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าในปัจจุบันบทบาทผู้หญิงเป็นที่พูดถึงเพิ่มมากขึ้น ในโครงการการผลิตปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์มอย่างยั่งยืนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม หรือ โครงการ SCPOPP ก็เป็นหนึ่งในโครงการฯ ที่มีเกษตรกรผู้หญิงเข้ามามีส่วนร่วมในกิจกรรมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการอาสาเข้ามาเป็นวิทยากรในการฝึกอบรม การเข้ามามีบทบาทเป็นคณะกรรมการบริหารจัดการกลุ่ม หรือแม้แต่การเข้ามามีส่วนร่วมในการเสนอแนวคิดเพื่อพัฒนากิจกรรมของโครงการฯ ให้ดีขึ้น จากการลงพื้นที่ดำเนินกิจกรรมและพูดคุยกับกลุ่มเกษตรกรหลายๆกลุ่ม ทางโครงการฯ มักจะเห็นเกษตรกรผู้หญิงเข้ามาร่วมกิจกรรมถึงร้อยละ 40 ซี่งเป็นสัดส่วนที่ค่อนข้างมากสำหรับเกษตรกรผู้ปลูกปาล์มน้ำมัน และเกษตรกรก็มีส่วนร่วมกับกิจกรรมเป็นอย่างดี ด้วยเหตุนี้จึงเป็นการจุดประกายให้กับทางโครงการฯว่า อะไรเป็นแนวคิดหลักที่เกษตรกรหญิงอย่างพวกเขาได้เข้ามามีบทบาทในการผลิตปาล์มน้ำมันอย่างยั่งยืน กล้าหาญ ความไม่ยอมแพ้ในแบบชาวสวนภาคใต้ที่ต้องพร้อมรับมือกับความเปลี่ยนแปลงในทุก ๆ วัน คุณเรณู ภู่สุวรรณ เกษตรกรส่วนใหญ่ได้รับการสืบทอดการจัดการสวนปาล์มจากรุ่นสู่รุ่น และเกษตรกรส่วนใหญ่ก็มีอายุค่อนข้างมาก มีแนวทางการปฏิบัติและดูแลสวนกันตามที่เคยทำกันมา แต่ในปัจจุบันกระแสการผลิตปาล์มน้ำมันที่ยั่งยืนได้เพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้เกษตรกรจำเป็นต้องปรับตัวให้สามารถเข้าสู่ระบบและทันต่อการเปลี่ยนแปลงของตลาดได้. “เราพอทราบว่าการทำสวนปาล์มแบบที่เคยทำมาก็พอเลี้ยงชีพอยู่ได้ แม้การทำแบบยั่งยืนมันต้องปรับเปลี่ยนเยอะโดยเฉพาะอย่างยิ่งความใส่ใจที่เพิ่มมากขึ้นและทำคนเดียวไม่ได้ เราต้องมีกลุ่มเกษตรกรรายย่อยอยู่ด้วยกัน

ความยั่งยืนเกิดขึ้นได้เมื่อพันธมิตรภาคียอมรับ

เขียนโดย: วัลนิภา โสดา, ผู้จัดการฝ่ายประสานงานภาครัฐและผลผลิตกาแฟ, โครงการคอฟฟีพลัส ประเทศไทย องค์ความรู้ เครื่องมือและวิธีการทำงาน ที่ถูกพัฒนาขึ้นโดยโครงการคอฟฟีพลัสมีความยั่งยืนได้ด้วยการทำให้พันธมิตรภาคีและเกษตรกร จากหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนสามารถทำงานร่วมกันเพื่อบรรลุเป้าหมายเดียวกัน โครงการพัฒนาระบบการผลิตกาแฟของผู้ประกอบการรายย่อยในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (โครงการคอฟฟีพลัส) เป็นโครงการร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชนในระดับภูมิภาค ที่ดำเนินการภายใต้ความร่วมมือระหว่าง จีไอแซด(GIZ) และบริษัท เนสเล่ ซึ่งดำเนินโครงการใน 3 ประเทศ คือ อินโนนีเซีย ฟิลิปปินส์ และประเทศไทย โครงการมีวัตถุประสงค์เพื่อปรับปรุงฐานะทางเศรษฐกิจของเกษตรกรผู้ปลูกกาแฟรายย่อย จำนวน 10,500 ราย ใน 3 ประเทศ แบ่งเป็น 7,000 รายในประเทศอินโดนีเซีย 1,500

Scroll to Top