
โครงการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันต่อผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในประเทศไทยด้วยการบริหารจัดการน้ำที่มีประสิทธิภาพและการเกษตรแบบยั่งยืน (Effective Water Management and Sustainable Agriculture: E-WMSA) เป็นเจ้าภาพจัดการฝึกอบรมพื้นฐาน (Foundation Training) ภายใต้หัวข้อ “การคัดเลือกและเกณฑ์ในการจัดลำดับความสำคัญของมาตรการการปรับตัวโดยอาศัยระบบนิเวศ (Ecosystem-based Adaptation: EbA)” ที่ห้องประชุมเมย์สวีท โรงแรมเมย์ ฟลาวเวอร์ แกรนด์ สวีท จังหวัดพิษณุโลก
การฝึกอบรมครั้งนี้จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 4 ภายใต้โครงการพัฒนาศักยภาพด้านการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำแบบบูรณาการภายใต้การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและการปรับตัวโดยอาศัยระบบนิเวศ (EbA) นับเป็นก้าวสำคัญในการเสริมสร้างความรู้เกี่ยวกับ มาตรการ EbA และกระบวนการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำแบบบูรณาการ โดยเฉพาะการใช้วงจร 6 ขั้นตอนของ EbA ในการระบุและจัดลำดับความสำคัญของมาตรการปรับตัว ตลอดจนการเลือกประเภทของ EbA ที่เหมาะสมกับภาคเกษตรกรรมและทรัพยากรน้ำ มีผู้เข้าร่วมการอบรมกว่า 20 ท่าน จากหลากหลายภาคส่วน ได้แก่ เกษตรกรผู้ใช้น้ำ เจ้าหน้าที่กรมชลประทาน และตัวแทนจากหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง การอบรมครั้งนี้ได้รับการสนับสนุนข้อมูลจาก Alluvium Consulting และสถาบันสิ่งแวดล้อมไทย ในฐานะบริษัทที่ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดการน้ำ และผู้เชี่ยวชาญกระบวนการดำเนินกิจกรรม

นายสมจิตฐิพงศ์ อำนาจศาล ผู้อำนวยการสำนักชลประทานที่ 3 ในฐานะประธานในพิธี ให้เกียรติกล่าวเปิดการอบรม พร้อมเน้นย้ำถึงความสำคัญของความร่วมมือระหว่างเกษตรกรในฐานะผู้ใช้น้ำ และหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ เพื่อให้เกิดความตระหนักและความเข้าใจตรงกันในประเด็นหลักรวมถึง ความจำเป็นของการใช้น้ำ หลักเกณฑ์ที่เหมาะสมในการคัดเลือกมาตรการ EbA ให้สอดคล้องกับบริบทของแต่ละพื้นที่

กิจกรรมการอบรมแบ่งออกเป็นช่วงเช้าและบ่าย มีการบรรยายให้ความรู้โดย ผศ.ดร.พงษ์ศักดิ์ สุทธินนท์ หัวหน้าภาควิชาวิศวกรรมแหล่งน้ำ คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ควบคู่กับการทำงานแบ่งกลุ่มย่อย เนื้อหาหลักมุ่งเน้นประเด็นสำคัญได้แก่:
- การระบุและเลือกใช้วิธีการปรับตัวโดยอาศัยระบบนิเวศที่เหมาะสมกับพื้นที่
- การนำเสนอและใช้เกณฑ์ในการจัดลำดับความสำคัญของวิธีการปรับตัวโดยอาศัยระบบนิเวศ (EbA)

ภายหลังการบรรยาย ผู้เข้าร่วมกิจกรรมได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นและนำเสนอผลการทำงานกลุ่มเพื่ออภิปรายร่วมกัน ที่ประชุมต่างเห็นพ้องว่า การดำเนินมาตรการ EbA ไม่เป็นเพียงแค่การใช้ประโยชน์นิเวศบริการ แต่จำเป็นต้องได้รับการดูแลจากชุมชนในพื้นที่ การมีส่วนร่วมของชุมชน คือหัวใจหลักของการบริหารจัดการน้ำที่มีประสิทธิภาพและการเกษตรแบบยั่งยืน ประสบผลสำเร็จ

นอกจากนี้ การอบรมยังช่วยส่งเสริมความร่วมมือระหว่างภาคเกษตร ผู้ใช้น้ำ เจ้าหน้าที่ภาครัฐ นักวิชาการ และเจ้าหน้าที่โครงการ ในการทำงานร่วมกันเพื่อพัฒนาแนวทางที่สามารถนำไปใช้ได้จริงในพื้นที่ ช่วยสร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชน และเพิ่มขีดความสามารถในการปรับตัวต่อผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศอย่างยั่งยืน ■
บทความที่เกี่ยวข้อง
- เสริมศักยภาพวิศวกรชลประทานด้วยการวิเคราะห์ความเสี่ยงและความเปราะบางจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
- ชาวลุ่มน้ำยม-น่าน ร่วมใจฝึกฝนรับมือวิกฤตน้ำจากภูมิปัญญาท้องถิ่น
- ไทย – ฟิลิปปินส์ แลกเปลี่ยน-เรียนรู้ การนำมาตรการปรับตัวโดยอาศัยระบบนิเวศมาใช้ในการบริหารจัดการน้ำ
- โครงการ E-WMSA: การเสริมสร้างความแข็งแกร่งของประเทศไทยต่อผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศในลุ่มน้ำยม-น่าน
- กรมชลประทาน-GIZ เปิดตัวโครงการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันต่อผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในประเทศไทย